นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดจะเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ ลักเซมเบิร์ก และกรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 9 – 14 กุมภาพันธ์ 2563

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นประธานร่วมในช่วงการหารือระดับสูงของการประชุม ASEAN-EU Dialogue on Sustainable Development ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ร่วมกับนาง Jutta Urpilainen กรรมาธิการยุโรปด้านหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยการประชุมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อาวุโสและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสมาชิกอาเซียนและสหภาพยุโรป ผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน และคณะกรรมาธิการยุโรป ตลอดจนผู้แทนจากองค์กรต่าง ๆ ของสหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ

การประชุม ASEAN-EU Dialogue on Sustainable Development ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมจัดกับสหภาพยุโรป เน้นย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนของอาเซียนและสหภาพยุโรปด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ (1) การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การเติบโตสีเขียว และการเงินสีเขียว (2) บทบาทของการบูรณาการในระดับภูมิภาคต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และ (3) การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการส่งเสริมบทบาทของสตรีในภาคธุรกิจ

อนึ่ง การประชุม ASEAN-EU Dialogue for Sustainable Development จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2560 ที่กรุงเทพฯ โดยเป็นการดำเนินการตามผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 21 เมื่อปี 2559 ให้จัดตั้งเวทีหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรป รวมทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางเยือนลักเซมเบิร์กอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 โดยจะพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลักเซมเบิร์ก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และการสนับสนุนบทบาทด้านการพัฒนาของลักเซมเบิร์กในอนุภูมิภาคและในภูมิภาค

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 12 – 13 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (strategic partner) และความร่วมมือระหว่างกันในสาขาที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทั้งสองฝ่าย เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ความร่วมมือด้านความมั่นคง การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน และการส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยการเยือนในครั้งนี้ถือเป็นการเยือนระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นครั้งแรกหลังจากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 และปี 2563 ยังถือเป็นปีครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สหราชอาณาจักร ครบ 165 ปีอีกด้วย