สาธารณรัฐไอซ์แลนด์

สาธารณรัฐไอซ์แลนด์

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.พ. 2553

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 48,793 view


สาธารณรัฐไอซ์แลนด์
Republic of Iceland

ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง สาธารณรัฐไอซ์แลนด์เป็นเกาะอยู่ใต้เส้นอาร์กติก เซอร์เคิล (Arctic Circle) ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะกรีนแลนด์ทางทิศตะวันตกของนอร์เวย์และทางทิศเหนือของสกอตแลนด์

ขนาด 103,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 39,769 ตารางไมล์

ภูมิอากาศ ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ในเขตโอเชียนิก (Oceanic Zone) มีฤดูร้อนที่สั้นและเย็น มีฤดูหนาวที่ยาวนานแต่ไม่หนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมเดือนที่ร้อนที่สุดประมาณ 11 องศาเซลเซียส และในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนที่หนาวที่สุดประมาณ -1 องศาเซลเซียล ไอซ์แลนด์มีน้ำพุร้อนและมีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่านจึงทำให้ไม่หนาวจนเกินไปและโดยที่ไอซ์แลนด์มีพื้นที่ไม่กว้างใหญ่นัก อุณหภูมิภายในประเทศจึงไม่แตกต่างกันมาก

ประชากร ประมาณ 319,575 คน (2555)

เมืองหลวง กรุงเรคยาวิก (Reykjavik)

ภาษา ไอซ์แลนดิก (Icelandic) เป็นภาษาราชการ

ศาสนา ประชาชนส่วนใหญ่ (93 %) นับถือศาสนาคริสต์ นิกาย Evangelical Lutheran Church

มาตราวัด ใช้ระบบเมตริก

เงินตรา ใช้สกุลเงินโครนไอซ์แลนด์ (Icelandic Kronur - ISK) 1 โครนไอซ์แลนด์ ประมาณ 0.28 บาท (ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2556) บาท

การปกครอง ระบบประชาธิปไตย (สาธารณรัฐ) โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 เขต โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ (อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปีมาจากการเลือกตั้งโดยตรง) และประธานาธิบดี จะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารประเทศโดยรับผิดชอบอำนาจบริหารร่วมกัน ส่วนอำนาจนิติบัญญัตินั้นมี Althingi (รัฐสภา) เป็นสภาเดียว ประกอบด้วยสมาชิกสภา 63 คน ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระ 4 ปี

ประธานาธิบดี Mr. Olafur Ragnar Grimsson

นายกรัฐมนตรี Mr. Sigmundur Davíð Gunnlaugsson

รัฐมนตรีต่างประเทศ Mr. Gunnar Bragi Sveinsson

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 13.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายได้ประชาชาติต่อหัว 41,739 ดอลลาร์สหรัฐ

อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 5.3

ประเทศคู่ค้า นอร์เวย์ เยอรมนี เดนมาร์ก สวีเดน สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส สหรัฐฯ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์
สินค้าเข้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ข้าว สิ่งปรุงรสอาหาร ตาข่ายจับปลา
สินค้าออก ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เงินแท่งและทองคำ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมืออเครื่องใช้วิทยาศาตร์ การแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

 

การเมืองการปกครอง

ไอซ์แลนด์ได้รับเอกราชเมื่อปี 2452 (ค.ศ. 1919) แต่อยู่ภายใต้ราชวงศ์เดนมาร์ก (under the Danish crown) และต่อมาประชาชนไอซ์แลนด์ได้ลงคะแนนเสียงให้ไอซ์แลนด์เป็นสาธารณรัฐเมื่อวันที่17 มิถุนายน 2487 (ค.ศ.1944)
การเมืองภายในประเทศ
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2556 ผลปรากฏว่า พรรค Independence ได้รับเสียงมากที่สุดโดยได้ที่นั่ง 21 ที่นั่ง โดยมี นาย Sigmundur Davíð Gunnlaugsson ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนาย Gunnar Bragi Sveinsson ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

การเมืองระหว่างประเทศ
ไอซ์แลนด์เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าเสรี แห่งยุโรป (European Free Trade Association - EFTA) ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และ ลิกเตนสไตน์ได้เจรจากับสหภาพยุโรป (European Union - EU) เพื่อจัดตั้งเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area - EEA) ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2537(ค.ศ. 1994) โดยไอซ์แลนด์เห็นว่า เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) จะเป็นประโยชน์กับไอซ์แลนด์ในฐานะที่เป็นประเทศผู้ส่งออกมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดหลักการพื้นฐานของการจัดตั้ง EEA ที่จะให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการเงินทุน และประชากรโดยเสรีจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกของไอซ์แลนด์ไปยังสหภาพยุโรป ทั้งการเข้าร่วมเจรจาจะช่วยให้ไอซ์แลนด์ในฐานะประเทศเล็กได้รับประโยชน์จากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับพหุภาคี (multi-national level) ที่จะมีส่วนช่วยเกื้อกูลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ปัจจัยหนึ่งที่ไอซ์แลนด์จำเป็นจะต้องหาทางเจรจากับสหภาพยุโรป คือ เพื่อรักษาสถานะของการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปลาไว้ เนื่องจากความตกลงการค้าพิเศษที่ไอซ์แลนด์ทำไว้กับสหภาพยุโรป เมื่อปี 2535 (ค.ศ. 1992) เพื่อผ่อนคลายการจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล โดยเฉพาะปลาเค็ม ไม่ได้สนองประโยชน์ต่อการส่งออกของไอซ์แลนด์ไปยังสหภาพยุโรปได้เช่นเดิม การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) จึงเป็นลู่ทางหนึ่งในการขยายการส่งออกผลผลิตด้านการประมงของไอซ์แลนด์ไปยังสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี ไอซ์แลนด์ยังไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในระยะอันใกล้ ด้วยเหตุผลที่สำคัญ คือ ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกปลา และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเป็นสำคัญ ซึ่งเมื่อไอซ์แลนด์เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว ไอซ์แลนด์อาจจะต้องเสียผลประโยชน์ทั้งด้านการประมงและเกษตรกรรมด้านอื่น ๆ สำหรับความร่วมมือของไอซ์แลนด์ในระดับภูมิภาคยุโรป ไอซ์แลนด์เป็นสมาชิกในองค์กรสำคัญๆ เช่น กลุ่มนอร์ดิก (Nordic) ซึ่งประกอบด้วยเดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน คณะมนตรีแห่งยุโรป (Council of Europe)องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization - NATO)

 

 

เศรษฐกิจการค้า

สภาวะทางเศรษฐกิจ
1. การพัฒนาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์ดำเนินไปในลักษณะเช่นเดียวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย คือ เป็นระบบทุนนิยม โดยมีระบบสวัสดิการที่ครอบคลุมแม้กระทั่งสวัสดิการที่อยู่อาศัย การกระจายรายได้อย่างค่อนข้างเท่าเทียมกัน การให้ความสำคัญแก่การค้าเสรี และการมีอัตราการว่างงานที่ต่ำ
2.ไอซ์แลนด์มีระดับมาตรฐานการครองชีพที่นับว่าสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แหล่งรายได้ที่สำคัญของไอซ์แลนด์ คือ อุตสาหกรรมการประมงซึ่งทำรายได้เข้าประเทศถึง 2 ใน 3 จากรายได้ที่ได้รับจากการส่งออกทั้งหมด โดยประเทศที่เป็นเป้าหมายส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเดนมาร์ก ส่วนประเทศที่นำเข้าสินค้าจากไอซ์แลนด์ที่สำคัญ ได้แก่ เยอรมนี นอร์เวย์ สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก ระบบเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์จึงขึ้นอยู่กับการค้าระหว่างประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงราคาของการซื้อขายปลาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ไอซ์แลนด์มีนโยบายสนับสนุนการส่งออกกระแสไฟฟ้าพลังน้ำและที่ได้รับความร้อนจากใต้ดิน (Geothermal and hydro power) ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะเป็นแหล่งที่มาของรายได้เข้าประเทศที่สำคัญอีกสาขาหนึ่ง

ดรรชนีทางเศรษฐกิจ (2555)
1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) : 13.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
GDP ต่อหัว : 41,739 ดอลลาร์สหรัฐ
2. อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ : ร้อยละ 2.7
3. อัตราเงินเฟ้อ : ร้อยละ 5.3
4. ประเทศคู่ค้าสำคัญ : สหภาพยุโรป สหรัฐฯ จีน นอร์เวย์ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
5. สินค้าเข้าสำคัญ : รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ข้าว สิ่งปรุงรสอาหาร ตาข่ายจับปลา  
6. สินค้าออกสำคัญ : ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เงินแท่งและทองคำ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาตร์ การแพทย์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐไอซ์แลนด์

ความสัมพันธ์ทางการทูต
- ไอซ์แลนด์กับไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2518 (ค.ศ. 1975) โดยฝ่ายไทยได้มอบหมายให้ไอซ์แลนด์อยู่ในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน และเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำไอซ์แลนด์อีกตำแหน่ง  เอกอัครราชทูตคนปัจจุบันคือ นางสาววิมล คิดชอบ 
และนาย Kjartan Borg เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยประจำประเทศไอซ์แลนด์

- สำหรับไอซ์แลนด์ได้แต่งตั้งให้นาย Stefan Skjaidarson เอกอัครราชทูตไอซ์แลนด์ ถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไอซ์แลนด์ประจำประเทศไทย และมีนายชำนาญ วีรวรรณ เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไอซ์แลนด์ประจำประเทศไทย และนาย Poul Weber เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ ตั้งแต่ปี 2540 


ความสัมพันธ์ด้านการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ไอซ์แลนด์ดำเนินไปด้วยความราบรื่นทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ไทยและไอซ์แลนด์มีความเห็นสอดคล้องและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในกรอบการดำเนินงานในองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสนับสนุนของไอซ์แลนด์ต่อผู้สมัครของไทยในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ เช่น การสมัครเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ของฯพณฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ในขณะนั้น)
จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ไอซ์แลนด์ได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ไทย โดยได้จัดส่งน้ำดื่มใส่ขวดพลาสติกจำนวน 20 ตัน เต็นท์ และผ้าห่ม ให้แก่ผู้ประสบภัย

ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ
การค้าทวิภาคีไทย-ไอซ์แลนด์ ไอซ์แลนด์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 138 ของไทย มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างไทยกับไอซ์แลนด์มีมูลค่าจำกัด โดยในปี 2555 มีมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สินค้าออกสำคัญของไทย คือ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ สิ่งปรุงรสอาหาร มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ผลิตภัณฑ์ยาง และตาข่ายจับปลา
- ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค สัตว์น้ำสด แช่เย็น และแช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เครื่องมือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลม และสุรา เคมีภัณฑ์

 

การท่องเที่ยว ประชาชนทั้งสองประเทศยังไปมาหาสู่ในรูปของการท่องเที่ยวไม่มากนัก เนื่องจากห่างไกลกันมาก การคมนาคมไม่สะดวก อย่างไรก็ตาม ชาวไอซ์แลนด์เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2555 มีชาวไอซ์แลนด์เดินทางมาไทย 5,061 คน


ชุมชนชาวไทยในไอซ์แลนด์
มีชาวไทยอาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ประมาณ 1,062 คน ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีไทยที่สมรสกับชาวไอซ์แลนด์ ซึ่งประกอบอาชีพแม่บ้าน และรับจ้าง (แรงงานไทยส่วนใหญ่ ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ปลา) มีร้านอาหารไทย 18 ร้าน วัดไทย 1 แห่ง และสมาคมไทย-ไอซ์แลนด์

การแลกเปลี่ยนการเยือน
ฝ่ายไอซ์แลนด์
- วันที่ 27- 31 มกราคม 2542 (ค.ศ.1999) นาย Halldor Asgrimsson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าต่างประเทศ พร้อมคณะภาคเอกชน 24 คนเยือนไทย โดยเป็นแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 28-30 มกราคม 2542
- วันที่ 10 เมษายน 2545 (ค.ศ.2002) นาย Olafur Egilsson เอกอัครราชทูตไอซ์แลนด์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง เดินทางมาเยือนไทย
- วันที่ 1-3 ตุลาคม 2546 (ค.ศ.2003) นาย Olafur Egilsson เอกอัครราชทูตไอซ์แลนด์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเรคยาวิก เดินทางมาเยือนไทย
- วันที่ 4-12 ธันวาคม 2547 (ค.ศ.2004) นาย Olafur Egilsson เอกอัครราชทูตไอซ์แลนด์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเรคยาวิก เดินทางมาเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

- วันที่ 10 มกราคม 2548 (ค.ศ.2005) เอกอัครราชทูต Gretar Mar Sigurosson อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ พร้อมคณะ ในฐานะหัวหน้าผู้แทนการเจรจาของสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) เยือนไทยเพื่อเจรจาเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดทำความตกลง เขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรปกับทางการไทย
- วันที่ 1-7 พฤษภาคม 2548 (ค.ศ.2005) นาย David Gunnarsson ปลัดกระทรวงและประธานคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลก (Permanent Secretary and Chairman of the Executive Board of the World Health Organization) เยือนไทย เพื่อเข้าร่วมประชุม The Health Aspects of the Tsunami Disater in Asia ที่จ.ภูเก็ต และได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ฝ่ายไทย
- เดือนมิถุนายน 2539 (ค.ศ.1996) สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเยือนไอซ์แลนด์ เป็นการส่วนพระองค์
- วันที่ 16-21 กรกฎาคม 2546 (ค.ศ.2003) รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล) และคณะ เยือนไอซ์แลนด์
- วันที่ 10-12 พฤษภาคม 2548 (ค.ศ.2005) นายเกริกไกร จีระแพทย์ หัวหน้าคณะ ผู้แทนไทยในการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) เยือนไอซ์แลนด์ เพื่อเจรจาเรื่อง FTA ระหว่างไทยกับ EFTA (Exploratory Meeting)

2 ม.ค. 2557

กองยุโรป 2 กรมยุโรป โทร. 0-2643-5133 Fax. 0-2643-5132 E-mail : [email protected]

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ