เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ในโอกาสวันเข้าพรรษา นางสาวกานติมน รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้ไปกราบนมัสการพระอาจารย์กัลยาโณ เจ้าอาสาสวัดป่าชิปท์เว็ท (Skiptvet Buddhist Monastery, Norway) เพื่อถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ในโอกาสนี้ พระอาจารย์กัลยาโณ ได้นำเอกอัครราชทูตฯ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และชาวไทยผู้มีจิตศรัทธา ไปเยี่ยมชมโลกุตตระวิหาร ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ เป็นสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรม โดยเป็นอาคารที่สร้างจากไม้สนและไม้โอ๊ค มีลักษณะเรียบง่ายและเข้ากับธรรมชาติในท่ามกลางป่าสน พระอาจารย์กัลยาโณ และคณะสงฆ์ได้นำเอกอัครราชทูตฯ และคณะเจริญจิตภาวนาในโลกุตตระวิหารดังกล่าว หลังจากนั้น พระอาจารย์กัลยาโณได้เมตตาให้อนุสติธรรมเกี่ยวกับความหมายของ “สีเลนะ นิพพุติง ยังติ” ว่า หมายถึงศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน โดยการละซึ่งกิเลสและการทำชั่วทั้งปวงนี้ จะนำไปสู่นิพพาน ซึ่งในประเด็นนี้พุทธศาสนาจะแตกต่างกับศาสนาอื่นที่เน้นให้ทำความดี แต่พุทธศาสนาเน้นให้ละกิเลสและความชั่วโดยการรักษาศีล ซึ่งจะทำให้พบกับการทำความดีนั่นเอง

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้พูดคุยกับชุมชนไทยที่มาร่วมทำบุญที่วัด ซึ่งมีผู้สอบถามเกี่ยวกับการทำบัตรประชาชน และขั้นตอนการเดินทางกลับประเทศไทย

วันนี้ เป็นวันเข้าพรรษาที่มีบรรยากาศสดชื่นจากฝนตกโปรยลงมา ในการเดินในป่าท่ามกลางธรรมชาติและได้เจริญจิตภาวนาในหมู่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและในหมู่กัลยาณมิตร ย่อมนำความสุขสงบใจมาให้อย่างยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่น้องชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์สามารถทำได้ที่นี่ เพราะมีวัดไทยหลายแห่งและชุมชนไทยก็มีศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างยิ่ง

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลขอน้อมนำบุญมาฝากพี่น้องชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง พบแต่สิ่งดีงามตลอดไป

#การทูตเพื่อประชาชนทุกแห่งหนเราดูแล

#Dhammadiplomacy

#น้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน