Trip.com บริษัทนำเที่ยวออนไลน์อันดับหนึ่งของจีน และ Renai โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของนครเซี่ยงไฮ้ บริจาคเวชภัณฑ์แก่กระทรวงสาธารณสุขไทย

Trip.com บริษัทนำเที่ยวออนไลน์อันดับหนึ่งของจีน และ Renai โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของนครเซี่ยงไฮ้ บริจาคเวชภัณฑ์แก่กระทรวงสาธารณสุขไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 เม.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,313 view

          Trip.com บริษัทนำเที่ยวออนไลน์อันดับหนึ่งของจีนมอบหน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้นให้แก่กระทรวงสาธารณสุขของไทย โดยนาย James Liang ประธานบริหารของบริษัทได้ติดต่อสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้เพื่อขอให้ประสานงานกับรัฐบาลไทยเรื่องการส่งมอบหน้ากากดังกล่าว ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และคาดว่าจะสามารถส่งมอบหน้ากากอนามัยทั้งหมดให้กระทรวงสาธารณสุขได้ภายใน เดือนเมษายน ศกนี้

          Trip.com เป็นหนึ่งในบริษัทนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวจีนตลาดบนเดินทางไปไทยจำนวนมากในแต่ละปีที่ผ่านมา Trip.com มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานกงสุลใหญ่ฯ และได้สนับสนุนการดำเนินงานของสถานกงสุลใหญ่ฯ มาโดยตลอด ผู้บริหารของบริษัทฯ ให้ความเห็นด้วยว่า เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะจากเซี่ยงไฮ้และมณฑลใกล้เคียงจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอีกอย่างแน่นอน

          นอกจากนี้ นาย Liu Chunlong ประธานบริหารโรงพยาบาล Renai ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของนครเซี่ยงไฮ้ พร้อมด้วยทีมงาน เข้าพบ น.ส.ศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ณ สถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 เพื่อนำเวชภัณฑ์มอบให้สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อส่งต่อไปบริจาคให้แก่กระทรวงสาธารณสุขของไทยใช้ประโยชน์ในการต่อสู้กับโรค COVID-19 อาทิ หน้ากากอนามัย N95 หน้ากากอนามัยการแพทย์ และชุดป้องกัน

           นาย Liu ย้ำว่า ไทยเป็นมิตรของจีนซึ่งสนับสนุนและช่วยเหลือจีนมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด ในขณะนี้ สถานการณ์ในเซี่ยงไฮ้และจีนดีขึ้นแล้ว จึงเป็นเวลาที่จีนจะช่วยไทยบ้าง และอวยพรให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับ COVID-19  

           กงสุลใหญ่ฯ ขอบคุณโรงพยาบาล Renai ในนามชาวไทย และได้เล่าถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในไทย พร้อมทั้งมาตรการที่รัฐบาลใช้ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และชื่นชมบทบาทของจีนในการให้ความช่วยเหลือประชาคมโลก

           นาย Liu ได้แลกเปลี่ยนทรรศนะเรื่องปัจจัยที่ทำให้เซี่ยงไฮ้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ในระดับที่น่าพอใจว่า ปัจจัยสำคัญคือความร่วมมือของประชาชนที่ระมัดระวังป้องกันตนเองตามที่รัฐบาลให้แนวทาง ทั้งการอยู่บ้านและการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปข้างนอก นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ใช้กลไกคณะกรรมการหมู่บ้านในการคัดกรองและตรวจสอบประชาชนทุกคนในแต่ละหมู่บ้านทั้ง 16 เขตอย่างทั่วถึง ทำให้สามารถแยกตัวผู้ป่วยไปรักษาได้เร็ว และติดตามอาการของผู้ใกล้ชิดได้อย่างครอบคลุม โดยนาย Liu เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้านเขตฉางหนิง ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่ฯ ด้วย ประการสุดท้าย คือทุกหน่วยงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกันภายใต้แผนปฏิบัติการแม่บทที่จัดทำโดยรัฐบาลเซี่ยงไฮ้  

            นาย Liu บอกด้วยว่า การใช้ยาแผนจีน อาทิ Lianhua Qingwen ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงปอดและทางเดินหายใจในการรักษาผู้ป่วยที่อาการไม่หนักเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีผู้รักษาหายจำนวนมากทั้งในนครอู่ฮั่น เซี่ยงไฮ้และพื้นที่อื่นของจีน

             ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 มีผู้ติดเชื้อสะสมในเซี่ยงไฮ้ 538 ราย แม้ว่าจะไม่พบกรณีการติดเชื้อจากภายในนครเซี่ยงไฮ้หรือ local case แล้ว แต่เซี่ยงไฮ้ก็ยังมีความท้าทายใหม่ คือยังพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งทำให้รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ยังต้องใช้มาตรการคัดกรองบุคคลที่เดินทางจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด

             โรงพยาบาล Renai เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของเซี่ยงไฮ้ ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้สร้างเครือข่ายให้เป็นพันธมิตรเพื่อให้มีช่องทางพิเศษในการติดต่อขอรับบริการกรณีคนไทยเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ รวมทั้งเป็นโรงพยาบาลที่ชาวไทยสามารถขอใบรับรอง fit to fly เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการเดินทางกลับไทยได้ ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เผยแพร่ข้อมูลและช่องทางติดต่อโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้และเป็นพันธมิตรของสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่เว็บไซต์ www.thaishanghai.com เพื่อให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์

 

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้

9 เมษายน 2563

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Trip.com บริษัทนำเที่ยวออนไลน์อันดับหนึ่งของจีนมอบหน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้นให้แก่

กระทรวงสาธารณสุขของไทย

 

 

นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ หารือร่วมกับ

นาย Liu Chunlong ประธานบริหารโรงพยาบาล Renai

 

โรงพยาบาล Renai นำเวชภัณฑ์มอบให้สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อส่งต่อไปบริจาคให้แก่กระทรวงสาธารณสุขของไทย

ใช้ประโยชน์ในการต่อสู้กับโรค COVID-19 อาทิ หน้ากากอนามัย N95 หน้ากากอนามัยการแพทย์ และชุดป้องกัน