เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว และคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะนายจาง ถงฉี เลขานุการรัฐบาลเมืองเหลียวเฉิง และนางเซี่ย ฮว๋า อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศเมืองเหลียวเฉิง
                             ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองเหลียวเฉิง กงสุลใหญ่ฯ ได้ศึกษาดูงาน (๑) บริษัทผลิตรถยนต์โดยสาร ZHONG TONG BUS HOLDING CO.,LTD ซึ่งจัดอันดับอยู่ในอันดับ ๒ ของจีน และอันดับที่ ๔ ของโลก ผลิตรถโดยสารขนาด ๖ เมตรถึง ๑๘ เมตร อาทิ รถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารทางไกล รถตู้ รถโรงเรียน มีความสามารถในการผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานและพลังงานใหม่จำนวน ๓๐,๐๐๐ คัน/ปี ส่งออกไป ๑๐๐ เขตพื้นที่/ประเทศ อาทิ รัสเซีย อเมริกาใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกา และไทย โดยส่งออกมาไทยประมาณ ๕๐๐ – ๖๐๐ คัน/ปี (๒) บริษัทอาหารสัตว์ GAMBOL PET GROUP ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๙ มีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ ๗ ของตลาดสินค้าปศุสัตว์ในจีน มีบริษัทลูกอยู่ที่อเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์และไทย ได้ลงทุนตั้งโรงงานอาหารสัตว์ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ในปี ๒๕๕๙ มีกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรวม ๖,๐๐๐ ตัน/ปี ส่งไปขายยังประเทศจีนภายใต้ยี่ห้อ Myfoodie ในอนาคต มีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์จากจีนมาไทย (๓) บริษัท CJ GROUP จากเกาหลีใต้ ผลิตอาหารแช่แข็ง ได้แก่ เกี๊ยว ลูกชิ้นและสเต็ก เพื่อผลิตสินค้าส่งขายภายในประเทศจีน (๔) บริษัทยาสมุนไพรจีน SHENGSI TIANHUA GROUP ซึ่งมีความร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยในการผลิตอาหารเสริมสมุนไพรจีนเพื่อจำหน่ายในไทยและส่งออกไปอเมริกา (๕) บริษัทเครื่องจักรอัจฉริยะ NOBOT INTELLIGENT DEVICE (SHANDONG) CO.,LTD เป็นบริษัทวิจัย ผลิต จำหน่ายและให้บริการด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม โกดังอัจฉริยะ และรถยกพาเลท ทั้งนี้ บริษัทต่าง ๆ เหล่านี้สนใจดำเนินธุรกิจกับไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เจ้าของบริษัทที่ได้ลงทุนในประเทศไทยแล้วแจ้งแก่กงสุลใหญ่ฯ ว่า การเยือนบริษัทของกงสุลใหญ่ฯ สร้างความมั่นใจให้ด้วยว่า รัฐบาลไทยให้ความสนใจและสนับสนุนบริษัทต่างประเทศที่ลงทุนในไทยและจะพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น
                             นอกจากบริษัทเอกชนข้างต้น กงสุลใหญ่ฯ ยังได้เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ผังเมืองเหลียวเฉิง ซึ่งจัดแสดงประวัติศาสตร์และนโยบายของเมือง ห้องนิทรรศการเขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจัดแสดงแผนผังเขตพื้นที่และอุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่ส่งเสริมให้ลงทุนในพื้นที่ ได้แก่ ยาชีวภาพ พลังงานใหม่ วัสดุใหม่ อุปกรณ์และเครื่องจักรอัจฉริยะ นิคมอุตสาหกรรม Smart Photoelectric Information ซึ่งส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ อุปกรณ์อัจฉริยะขั้นสูง วัสดุใหม่ และพลังงานใหม่ นิคมอุตสาหกรรมบริการด้านทรัพยากรมนุษย์เมืองเหลียวเฉิง ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการนำเข้าบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญและดึงดูดการลงทุน บริการให้คำปรึกษาและข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์ บริการจัดกิจกรรมและการประชุม
                             ในปี ๒๕๖๑ เมืองเหลียวเฉิง มีมูลค่า GDP ๓๑๕,๒๑๕ ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ ๕.๔ ได้รับการยกย่องเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองสาธิตการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติจีน และเป็นแหล่งกำเนิดการสวดมนต์แบบ FANBAI ด้านเกษตรกรรม เมืองเหลียวเฉิงเป็นฐานการผลิตน้ำมันและพืชผักที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของมณฑลซานตง ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการส่งเสริมและผลักดันสร้างเมืองฟองน้ำ และเมืองอัจฉริยะ
                             การเดินทางเยือนเมืองเหลียวเฉิงครั้งนี้ นอกจากเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ ทำความรู้จักเพื่อประโยชน์ในการประสานงานการคุ้มครองคนไทยในพื้นที่รับผิดชอบแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามแสวงหาข้อมูลเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันด้านการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการเหลียวเฉิงในไทย ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการเดิมที่ลงทุนที่ไทยอยู่แล้วขยายการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และหากมีบริษัทไทยรายใดสนใจดำเนินธุรกิจกับบริษัทข้างต้น หรือมีข้อสนใจใด สามารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้